หากคุณกำลังมองหาบริษัททัวร์ที่ให้บริการเดินทางไปญี่ปุ่นในประเทศไทย นี่คือบางบริษัทที่มีชื่อเสียงและให้บริการทัวร์ญี่ปุ่น:

  1. JTB (Japan Travel Bureau)
    JTB เป็นหนึ่งในบริษัททัวร์ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดทัวร์ไปญี่ปุ่น โดยมีทั้งทัวร์กลุ่ม ทัวร์ส่วนตัว และบริการจองโรงแรม บัตร JR Pass รวมไปถึงบริการทัวร์พิเศษต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น
  2. H.I.S. Thailand
    บริษัททัวร์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย โดยเฉพาะการให้บริการทัวร์ญี่ปุ่นแบบครบวงจร ทั้งทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นแบบกลุ่มและทัวร์ฟรีสไตล์ รวมถึงการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม
  3. Tourkrub
    Tourkrub เป็นบริษัทที่จัดทัวร์ญี่ปุ่นที่มีแพ็คเกจหลากหลาย ทั้งทัวร์ตามเมืองยอดนิยม เช่น โตเกียว เกียวโต ฮอกไกโด และโอซาก้า นอกจากนี้ยังสามารถจัดทัวร์ได้ตามงบประมาณและความต้องการของลูกค้า
  4. Thai Airways Holidays
    บริษัททัวร์จากสายการบินไทยที่มีทัวร์ญี่ปุ่นหลากหลายรูปแบบ ทั้งทัวร์แบบแพ็คเกจครบวงจรและทัวร์ที่สามารถเลือกสถานที่เที่ยวเองได้
  5. Japanican
    เป็นบริษัทในเครือของ JTB ที่เน้นการจัดทัวร์ญี่ปุ่นและบริการจองโรงแรม รวมถึงบริการจองทริปต่างๆ ในญี่ปุ่นที่หลากหลาย

คุณสามารถเลือกบริษัททัวร์เหล่านี้ตามความสะดวกและรูปแบบการเดินทางที่ต้องการ ทั้งนี้ แนะนำให้เปรียบเทียบราคาและแพ็คเกจทัวร์เพื่อให้ได้สิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการของคุณครับ!

การเตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่นเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน นี่คือเคล็ดลับและขั้นตอนที่ควรทำก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น:

1. ตรวจสอบเอกสารการเดินทาง

  • พาสปอร์ต: ต้องมีอายุการใช้งานที่เหลืออย่างน้อย 6 เดือนหลังจากวันที่คุณกลับจากญี่ปุ่น
  • วีซ่า: สำหรับนักท่องเที่ยวไทยสามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า หากไปท่องเที่ยวไม่เกิน 90 วัน (กรณีไปเยี่ยมญาติหรือทำธุรกิจต้องขอวีซ่า)
  • ประกันการเดินทาง: ควรซื้อประกันการเดินทางเพื่อคุ้มครองกรณีฉุกเฉิน เช่น การเจ็บป่วย การยกเลิกเที่ยวบิน หรือการสูญหายของกระเป๋าเดินทาง

2. การจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก

  • จองตั๋วเครื่องบิน: ควรจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือนเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
  • ที่พัก: ญี่ปุ่นมีที่พักหลายระดับ ตั้งแต่โรงแรม 5 ดาวจนถึงโฮสเทลหรือเกสต์เฮาส์ สามารถจองผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Booking.com, Agoda หรือ Airbnb

3. เตรียมแผนการเดินทาง

  • สถานที่ท่องเที่ยว: ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณสนใจ เช่น โตเกียว, โอซาก้า, เกียวโต, ฮอกไกโด ฯลฯ อย่าลืมศึกษาสภาพอากาศในแต่ละช่วงเวลาด้วย (ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ ฯลฯ)
  • การเดินทางในญี่ปุ่น: การใช้ JR Pass (Japan Rail Pass) สำหรับเดินทางระหว่างเมืองต่างๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ดี หากเดินทางในพื้นที่เดียวกันจะสามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะเช่น รถไฟใต้ดิน รถไฟ JR และบัส
  • ซิมการ์ด/เน็ตโรมมิ่ง: ควรซื้อซิมการ์ดสำหรับใช้เน็ตในญี่ปุ่น หรือเช่า Wi-Fi Portable Hotspot เพื่อใช้ในการค้นหาข้อมูลระหว่างเดินทาง

4. แลกเปลี่ยนเงินเยน

  • เงินเยน: ควรแลกเงินเยนล่วงหน้าเพื่อให้สะดวกในกรณีที่ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตในบางพื้นที่
  • บัตรเครดิต: ใช้บัตรเครดิตที่มีค่าธรรมเนียมต่ำในการใช้จ่ายต่างๆ แต่บางร้านค้าในญี่ปุ่นอาจไม่รับบัตรเครดิต ดังนั้นควรเตรียมเงินสดติดตัว

5. การเตรียมตัวด้านการสื่อสาร

  • ภาษา: ภาษาหลักในญี่ปุ่นคือภาษาญี่ปุ่น บางสถานที่ในเมืองใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่บางครั้งการสื่อสารอาจยาก ดังนั้นการเรียนรู้คำพื้นฐาน เช่น “สวัสดี” (こんにちは, คอนนิจิวะ) หรือ “ขอบคุณ” (ありがとう, อาริกาโตะ) อาจช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น

6. การเตรียมตัวด้านสุขภาพ

  • วัคซีน: ปกติแล้วไม่จำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนพิเศษก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น แต่ควรตรวจสอบกับคลินิกหรือแพทย์เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนที่จำเป็น
  • ยา: หากคุณมีโรคประจำตัว ควรพกยาไปให้เพียงพอ และหากจำเป็นต้องพกยาที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบยาโอเวอร์เดอะเคาน์เตอร์ (OTC) ควรตรวจสอบกฎระเบียบของการนำยามาใช้ในญี่ปุ่น

7. การทำความเข้าใจวัฒนธรรมและมารยาท

  • การให้ทิป: ในญี่ปุ่นไม่ต้องให้ทิปที่ร้านอาหารหรือโรงแรม เพราะการให้ทิปอาจถือเป็นการเสียมารยาท
  • การปฏิบัติตัวในที่สาธารณะ: ควรเคารพความเงียบสงบในที่สาธารณะ โดยเฉพาะในรถไฟหรือรถไฟใต้ดิน
  • การรอคิว: ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการเข้าคิว ควรรอคิวอย่างมีระเบียบเมื่อขึ้นรถไฟหรือเข้าร้านอาหาร

8. การจัดกระเป๋า

  • เสื้อผ้า: ควรเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับฤดูกาลในขณะนั้น เช่น เสื้อผ้าสบายๆ สำหรับฤดูร้อน หรือเสื้อกันหนาวสำหรับฤดูหนาว
  • รองเท้า: การเดินเยอะในญี่ปุ่นเป็นเรื่องปกติ ควรเลือกใส่รองเท้าที่สบาย

9. ประสบการณ์ท้องถิ่น

  • อาหารญี่ปุ่น: อย่าพลาดที่จะลองอาหารท้องถิ่นที่ญี่ปุ่น เช่น ซูชิ, ราเมน, ทาโกยากิ, และอาหารที่มีในแต่ละฤดูกาล
  • ออนเซ็น (Onsen): ถ้ามีโอกาส ลองแช่ออนเซ็นซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปญี่ปุ่น

การเตรียมตัวให้ดีจะช่วยให้การเดินทางของคุณในญี่ปุ่นสนุกและราบรื่นมากยิ่งขึ้นครับ!